Latest Movie :




วันที่ 3 ออกจากโรงพยาบาล วันศุกร์ ที่ 7 มีนาคม 2557 เวลา 13.45 น.

วันที่ 3 ออกจากโรงพยาบาล  วันศุกร์ ที่ 7 มีนาคม 2557 เวลา 13.45 น.

ก่อน ออก    ขอ ใบ สูติบัตร ที่ เทศบาล นครหาดใหญ่  ต้องนำ สำเนาบัตรประชาชน แม่ พ่อ  ทะเบียนบ้าน  เอกสาร จาก โรงพยาบาล มอ.  

เสร็จ แล้ว กลับมาติดต่อ แผนก เวชกรรม ช่อง 2 ทำบัตร    เสร็จ ขน ของกลับบ้าน ..  





เล่าประสบการณ์พาลูกน้อยกลับบ้านหลังคลอด

หลังจากระยะเวลาการพักฟื้นหลังคลอดที่โรงพยาบาลสิ้นสุดก็ถึงเวลาพาลูกน้อยกลับบ้าน เรียกได้ว่าเป็นก้าวสำคัญที่เราจะได้ดูแลลูกอย่างเต็มตัว แต่การพาลูกกลับบ้านของเราเรียกได้ว่าล้มเหลวไม่เป็นท่าจนต้องบอกว่าเราทั้งคู่สอบตกวิชาพ่อแม่มือใหม่

เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลฉันและสามีพยายามใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุดเพื่อพยายามสร้างสายใยรักตลอดจนฝึกดูแลลูก เวลากลับบ้านจะได้ทำทุกอย่างราบรื่นตามที่พยาบาลสอน แต่ก็ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เลย ต่อให้หาข้อมูลรองรับสถานการณ์จริงแล้วก็ยังไม่มีประสบการณ์อยู่ดี

วันแรกที่พาลูกกลับบ้านลูกนอนอีกทีตอนเช้าวันรุ่งขึ้น เราออกจากโรงพยาบาลเวลาบ่ายโมงตรง ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นลูกหิวนมแต่สามีบอกว่าถึงบ้านค่อยให้ลูกกินนมเพราะถ้าเอาลูกออกจากคาร์ซีทเวลาขับรถไม่ปลอดภัย ลูกเลยตื่นตลอดทางกลับบ้าน

พอมาถึงบ้านก็รีบให้ลูกดูดนมแต่ตอนนั้นน้ำนมยังไม่มา ฉันพยายามใจแข็งให้ลูกดูดกระตุ้นโดยหลีกเลี่ยงการใช้นมผงที่โรงพยาบาลให้มาให้นานที่สุด ลูกไม่ร้องไห้แต่ลูกไม่นอน ฉันเลยให้ลูกอยู่นิ่ง ๆ สักพักระหว่างช่วยสามีจัดของเข้าที่

จากนั้นเราก็มาเตรียมของใช้ให้ลูกจึงรู้ว่าน้ำต้มสุกทิ้งไว้ให้เย็นสำคัญมากขนาดไหนเพราะที่โรงพยาบาลจะใช้แต่น้ำต้มสุกตลอด พ่อแม่มือใหม่อย่างเราพอพยาบาลสอนอะไรมาก็จะทำตามทุกอย่าง แต่ที่บ้านไม่มีเลยรีบเสียบกระติกน้ำร้อน พอน้ำเดือดก็ทิ้งไว้ให้เย็น เรื่องวุ่นวายเพราะน้ำต้มสุกก็เลยเกิดขึ้นเพราะต้องอาบน้ำให้ลูก น้าของฉันจึงให้พี่ฝ่ายบัญชีที่เคยมีลูกมาสอนอาบน้ำลูก แม้ว่าพยาบาลจะสอนมาแล้วแต่ในวันนั้นเรียกได้ว่าพี่เขามาอาบน้ำให้ลูกของฉันเลย เราต้องใช้สำลีชุบน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วเพื่อมาเช็ดตาลูก น้ำก็กำลังต้มอยู่ สำลีก็ไม่มี มีแต่ทิชชูเช็ดก้นเด็ก เพราะฉันไม่เคยเห็นพี่สะใภ้ของฉันใช้สำลีเลย โชคดีน้ารีบขี่มอเตอร์ไซค์ไปซื้อสำลีมาให้ แต่น้ำยังร้อนอยู่ ฉันถือว่าฉันทำพลาดไปแล้วหนึ่งอย่าง แถมยังไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ให้ลูกหลังอาบน้ำอีก แล้วจะใส่ชุดไหนละเนี่ยมีเต็มลิ้นชักไปหมด ฉันช้ามากลูกก็อยู่ในผ้าห่อตัว แผล (ผ่าคลอด) ก็ตึง เฮ้อเป็นลูกฉันนี่น่าสงสารจริง ๆ

นอกจากจะใช้สำลีเช็ดตาลูกแล้ว ระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลเรายังใช้สำลีเช็ดก้นลูกด้วย แต่ฉันยังไม่ได้เตรียมเพราะน้ำยังไม่เย็น ระหว่างนั้นก็ต้องหากล่องมาใส่สำลีเปียกเตรียมไว้ ฉันรู้สึกว่าการอาบน้ำลูกวันนี้เหนื่อยมากหรือเพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนมันเลยเหนื่อยประกอบกับร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ก็ไม่รู้

ลูกเริ่มร้องหานม ฉันก็ให้ลูกดูดกระตุ้นอีกหลายต่อหลายครั้งลูกก็หลับ ๆ ตื่น ๆ ทุก ๆ 5 นาที เรียกว่าเอาออกจากเต้าปุ๊บก็ตื่นปั๊บ เวลาล่วงเลยไปเป็นเที่ยงคืนแล้ว สามีบอกว่าเราต้องยอมให้ลูกกินนมผงแล้วละ เพราะเรายังไม่มีนมแม่ให้ลูก ลูกก็ร้องแล้วก็ยังไม่นอนเลย เราเลยตัดใจให้นมผงลูกไป 2 ออนซ์ ในที่สุดลูกก็นอนหลับสบายตอนตีหนึ่งครึ่ง ทีนี้หลับยาวแล้ววันรุ่งขึ้นก็หลับตลอดทั้งคืนทั้งวัน สงสัยลูกคงจะเพลียมาก

ฉัน สามี และน้ามาประเมินผลของการพาลูกกลับบ้านกันวันแรกเรียกว่าเราสอบตกเพราะเราจะทำอะไรก็งง ๆ และชักช้าเสียเหลือเกิน ฉันรู้สึกแย่ที่ลูกหิวและตื่นนอนเกือบ 12 ชั่วโมง ในทางกลับกัน น้าบอกว่าเราทำได้ดีแล้ว นอกจากนี้น้ายังชื่นชมที่ฉันกับสามีเตรียมข้าวของให้ลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่ฉุกละหุ แม้ว่าตอนแรกครอบครัวของฉันจะไม่เห็นด้วยก็ตาม


Share this article :

Post a Comment

 
 
Support : | |
Copyright © 2014. บ้าน น้องโอห์ม - All Rights Reserved
Template Created by Published by
Proudly powered by Blogger