Latest Movie :
Recent Movies




น้องโอม ใกล้จะ 9 เดือน เป็นผื่นคันที่ผิวหนัง ขาหนีบ หลายวันแล้ว คันมาก ครัชช..

น้องโอม อายุใกล้จะ 9 เดือนแล้วค่ะ ปกติก่อนอาบน้ำเราก็นวดตัวเค้าด้วยเบบี้ออยล์ที่ใช้เป็นประจำ ทาโลชั่นและแป้งหลังอาบน้ำทุกครั้ง ไม่เคยเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพราะเห็นว่าดีและลูกไม่แพ้

   แต่ช่วงนี้สังเกตมาราว 1 อาทิตย์ตั้งแต่อากาศเริ่มเย็นและฝนตก(ไม่น่าเกี่ยว) น้องโอมเรามีมีตุ่มแดงและ ผื่นแดงหนังลอกออกเป็นแผ่นๆผื่นเล็กๆ ที่กระจายออกไป เหมือนมีการลามออกไป ที่ขาหนีบ  รู้สึกว่าน้องจะมีอาการคันร่วมด้วยเพราะเห็นเกาแรงๆ  เราจับตัดเล็บสั้นเลยค่ะกลัวผิวลูกถลอก ช่วงนี้แกก็หงุดหงิดงอแงด้วย สงสารลูกค่ะ
ช่วงแรกหาซื้อ ยามาทาเอง  ยา ซาโนคอร์ท-เอ ครีม(SANOCOURT-A) ทาไปได้ 2 วัน  ผิว น้อง ลอก ถลอก เป็น แผ่น เลย  หลัง จาก นั้น เลิก  อ่าน ใน เน็ต เค้า บอก เช็ด ตัวให้ แห้งแล้ว ทาวาสลีน ปลอดภัยกว่า แต่ ก็ยังไม่หาย 


เลยพาไปหาหมอ ที่คลินิกเด็ก แพทย์หญิงวาริชา-นายแพทย์ศุภชัย หมอ บอกว่าลูกเป็นเชื่อรา มีลักษณะลอกเป็นแผ่นๆ (Scale) และมักพบผื่นเล็กๆ ที่กระจายออกไป เหมือนมีการลามออกไป เรียกว่ามี Satellite Lesion รอยผื่นแดงเล็กๆ บางทีจะรวมตัวกันเป็นผื่นที่ใหญ่ขึ้นผื่นเดียว (Coalescing) วิธีสังเกตง่ายๆ คือ ลูกมักร้องไห้งอแงเวลาเปลี่ยนผ้าอ้อม เพราะลูกรู้สึก เจ็บ ปวด แสบ ผิวหนังบริเวณผื่นเมื่อมีการสัมผัส

หมอให้ยามาเพียบเลย  มีทั้งยารับประทาน ก่อนอาหาร วันละ 3 ครั้ง เช้า เที่ยง ก่อน นอน แก้แพ้ แก้ คัน ทาน ครั้ง ละ 1/2 ช้อน ยาทาที่ ขาหนีบ 2 กระปุก เช็ด ให้แห้งและทาหลังอาบน้ำ ..ต้องทาติดต่อ กัน สัก 1 อาทิตย์ ยา แถม หมอคงเห็น รอยยุง กัด น้องโอม เป็น รอยแดง (น้องโอม แพ้ยุง) เลยให้ยาทาแก้ยุงกัดมาด้วย 1 กระปุก   พร้อม ด้วย  ฟลูออไรด์ เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ ให้น้องโอม 1 ขวด รับประทานวันละครั้ง  ครั้งละ 0.5 CC


ช่วงนี้เลยต้องดูแลเรื่องความสอาดเป็นพิเศษ ..อาบน้ำเสร็จ ต้อง เช็ดตัวน้องให้แห้งสนิท ..

พอดีได้มีโอกาสอ่านบทความที่คุณหมอท่านหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญด้านผิวหนังเขียนให้ความรู้ในเรื่องของอันตรายจากผดผื่นในเด็กรวมถึงวิธีการป้องกัน เห็นว่าได้ประโยชน์กับตัวเองที่เป็นคุณแม่มือใหม่ม๊าก...มาก ... ขอแชร์ข้อมูลนี้ส่งต่อให้คุณแม่ทั้งหลายที่ต้องประสบปัญหาผดผื่นในลูกรักเหมือนกันค่ะ

ลูก...เป็นเสมือนดั่งแก้วตาดวงใจของครอบครัว ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หรือเก่าต่างก็ทะนุถนอมเลี้ยงดูลูกแบบที่ว่ายุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมกันเลย แต่ถึงแม้ว่าจะทะนุถนอมลูกน้อยเพียงใด ก็ยังมีโอกาสเกิดผดผื่นบนผิวที่บอบบางของลูกรักได้ทุกเมื่อ เด็กกว่า 46% มีปัญหาที่เกี่ยวกับผดผื่น ทั้งผดผื่นที่เกิดจากอากาศร้อนและผื่นผ้าอ้อมแม้เพียงการระคายเคืองเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้กลายเป็นตุ่มผื่นขึ้นในวงกว้าง บางครั้งอาจเกิดอาการหนอง และหากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจจะเป็นช่องทางของเชื้อโรคและกลายเป็นหนอง หรือมีแผลเหวอะหวะได้ในที่สุด

อาการผื่นในเด็กนอกจากจะทำให้ลูกน้อยเกิดอาการเจ็บป่วยทางร่างกายแล้ว บางโรคที่เป็นโรคเรื้อรังยังก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านจิตใจอีกด้วย เพราะเด็กจะเกิดความเครียด ไม่สบายตัว และหงุดหงิด เมื่อมีอาการคันและอักเสบ ซึ่งย่อมส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ต่างๆของเด็กไม่มากก็น้อย

ดังนั้น หากไม่อยากให้ลูกรักเกิดผื่นคล้ายผดตามร่างกาย เราควรรู้จักสาเหตุของการเกิดผื่นคล้ายผดกันก่อนดีกว่า โดยส่วนใหญ่โรคนี้มักจะมากับความอับชื้น ซึ่งการทำให้ผิวลูกแห้ง สบายตัวตลอดเวลา ก็จะช่วยป้องกันการเกิดผดผื่นได้ ซึ่งคุณแม่กว่า 87 % ใช้แป้งในการแก้ปัญหาผดผืนที่เกิดจากความเปียกชื้น

เรามาทำความรู้จักกับผดและผื่นคล้ายผดชนิดต่างๆ และปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดผื่นทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกร่างกาย และผื่นชนิดที่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดการลุกลามได้

1.ผื่นจากต่อมเหงื่อ (ผด)

เพราะร่างกายของคนเราต้องมีการระบายความร้อนออกมาทางผิวหนังพร้อมกับเหงื่อ แต่สำหรับเด็กเล็กๆต่อมเหงื่อยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์นัก จึงอาจจะทำให้โอกาสที่จะเกิดต่อมเหงื่ออุดตันและลุกลามกลายเป็นผดผื่นได้ ซึ่งมีหลายชนิดขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิด คือ ถ้าต่อมเหงื่อมีการอุดตันที่ผิวหนังชั้นนอกก็มีลักษณะเป็นผดเม็ดใสๆ ถ้ามีการอุดตันที่ผิวหนังชั้นกลางจะมีลักษณะเป็นผดแดง หรือถ้ามีการอุดตันที่ผิวหนังชั้นในจะมีลักษณะเป็นผดสีขุ่น ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็นสบายมักไม่ค่อยพบอาการนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นช่วงที่อากาศร้อนคุณแม่สามารถป้องกันโดยการอาบน้ำให้ลูกบ่อยๆ เลือกใช้เสื้อผ้าทำด้วยฝ้ายที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย หรือให้ลูกอยู่ในห้องที่ระบายอากาศได้ดี แต่ถ้าหากไม่สามารถอาบน้ำหรือพาลูกน้อยไปอยู่ในที่ระบายอากาศได้ดี ก็อาจจะทาแป้งฝุ่นโรยตัว เพื่อช่วยดูดซับเหงื่อให้แห้ง ก็จะสามารถป้องกันผื่นที่เกิดจากสาเหตุนี้ได้

2.ผื่นจากผ้าอ้อม

โรคนี้จะมีผื่นคล้ายผด เกิดจากการหมักหมมของปัสสาวะและอุจจาระ ทำให้ระคายเคืองต่อผิวของลูก มักเกิดจากการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไม่ถูกวิธีจนทำให้ผิวหนังเกิดเม็ดผื่นคันและอักเสบ โดยเฉพาะบริเวณก้น โคนขา และอวัยวะเพศ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราตามมาได้ การป้องกันผิวของลูกน้อยจากผื่นชนิดนี้คือ การป้องกันไม่ให้ผิวหนังของลูกอับชื้น โดยการเลือกชนิดผ้าอ้อมที่มีเจลซับปัสสาวะได้พอเพียง และทำด้วยวัสดุระบายอากาศได้ดี ไม่ควรทำด้วยพลาสติก นอกจากนี้หลังจากที่ลูกอุจจาระและปัสสาวะเสร็จแล้วต้องทำความสะอาดให้ดี และเช็ดให้แห้ง ทาด้วยขี้ผึ้งหรือน้ำมันเคลือบผิวไว้ไม่ให้เกิดการระคายเคืองง่าย
การที่ผิวหนังของเด็กต้องสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียในอุจจาระ ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการอักเสบและพุพองได้ ทั้งนี้การป้องกันผิวของลูกน้อยจากผดผื่นชนิดนี้คือ การป้องกันไม่ให้ผิวหนังของลูกอับชื้น โดยการเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยๆ นอกจากนี้หลังจากที่ลูกอุจจาระและปัสสาวะเสร็จแล้วต้องทำความสะอาดให้ดี และเช็ดให้แห้ง ตามด้วยการทาแป้งตามจุดอับชื้นเพื่อช่วยดูดซับความชื้นให้แก่ลูกน้อย ทั้งนี้ควรเลือกแป้งที่ให้การป้องกันความเปียกชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ผื่นจากความอับชื้นและการเสียดสี

พบบ่อยตามข้อพับและซอกต่างๆ ในทารกหรือเด็กเล็กที่กำลังเจ้าเนื้อจ้ำม่ำน่ารัก เกิดจากความอับชื้นและการเสียดสีในบริเวณผิวดังกล่าว ทำให้เกิดการอักเสบแดง อาจมีผื่นคล้ายผด หรือมีการติดเชื้อราตามมาได้ การป้องกันทำได้โดย หลังอาบน้ำทำความสะอาดบริเวณซอกต่างๆ แล้วซับน้ำให้แห้ง อาจจะทาแป้งเพื่อดูดซับความชื้นและลดการเสียดสีได้

4. ผื่นจากภูมิแพ้ผิวหนัง

เด็กมักจะเกิดอาการแพ้สิ่งที่มากระตุ้นได้ง่าย เช่น แพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แพ้ผลิตภัณฑ์ซักผ้า หรือเหงื่อออกก็รู้สึกคัน ซึ่งมักจะพบในเด็กช่วงขวบปีแรก โดยจะมีอาการคันและเป็นผื่นเม็ดเล็กๆที่ผิวหนัง หากเป็นระยะเฉียบพลันจะเป็นเม็ดเล็กๆสีแดง ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นปื้นหนาทำให้เรื้อรังและรักษายากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรังและถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้เกิดมามีผิวที่แห้ง และภูมิคุ้มกันผิดปกติ การกำเริบของผื่นขึ้นอยู่กับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ถ้าอาการแพ้ไม่รุนแรงผิวลูกอาจจะดีขึ้นได้เองโดยการทาครีมป้องกันผิวแห้ง แต่ถ้ามีอาการรุนแรงควรไปพบแพทย์ การป้องกันผื่นชนิดนี้ทำได้โดยการไม่ให้ผิวหนังของลูกสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอมฉุน อ่อนโยนต่อผิว และมีการทดสอบแล้วว่าไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก ไม่ควรอาบน้ำฟอกสบู่ให้ลูกบ่อยๆ เพราะการอาบน้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะการอาบด้วยน้ำอุ่น จะทำให้ผิวแห้งและคัน และเมื่อเกิดอาการคันก็จะเกา ซึ่งก็ยิ่งจะทำให้ผื่นแพ้ลุกลามมากขึ้นดังนั้น สิ่งสำคัญในการดูแลผิวพรรณของลูกน้อยให้สวยใสปลอดภัยจากอาการระคายเคือง คือ การป้องกันไม่ให้เกิดผื่น โดยมีเทคนิคง่ายๆดังนี้

1. การดูแลผิวไม่ให้เกิดการอับชื้นโดยเฉพาะตามซอกและข้อพับต่างๆ อาจจะใช้แป้งที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดความเปียกชื้น อันเป็นสาเหตุให้เกิดผดผื่น ซึ่งแป้งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดความอับชื้นและลดการเสียดสี
2. ถ้าลูกผิวแห้งและแพ้ง่าย ควรให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของลูกน้อย โดยเลือกใช้โลชั่นที่ทดสอบแล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวเด็กโดยเฉพาะหลังจากอาบน้ำเสร็จ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูก
3. การดูแลผิวไม่ให้เกิดการอับชื้นโดยเฉพาะตามซอกและข้อพับต่างๆ อาจจะใช้แป้งที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดความเปียกชื้น อันเป็นสาเหตุให้เกิดผดผื่น ซึ่งแป้งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน ดังนั้นอาจจะต้องเลือกแป้งที่มีประสิทธิภาพในการลดความเปียกชื้นจริงๆ
4. หากลูกเกิดผื่นคันควรตัดเล็บลูกให้สั้นเสมอ หรืออาจใส่ถุงมือไว้ก่อน เพราะหากลูกเกาจะทำให้ผื่นเห่อ และ เล็บอาจไปทำให้เกิดเป็นแผลถลอก ซึ่งจะทำให้เกิดแผลลุกลามติดเชื้อได้ง่าย

และเมื่อลูกน้อยมีผิวพรรณสดใส ปราศจากผดผื่นกวนใจ ก็จะมีการพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์สมวัย พร้อมที่จะเรียนรู้โลกกว้างได้อย่างมั่นใจ


ทำยังไง เมื่อลูกร้องไห้

ทำยังไง เมื่อลูกร้องไห้

เด็กแรกเกิดไม่รู้ภาษาไว้ใช้สื่อสารความต้องการของตัวเอง ดังนั้นถ้าเจ้าตัวน้อยต้องการอะไรบางอย่างหรือแค่อยากให้คุณสนใจ เขาก็จะร้องไห้ แต่เมื่อผ่านไปสักพัก คุณก็จะเริ่มเรียนรู้เองว่าเมื่อไหร่ลูกหิว เหนื่อย หรือแค่อยากให้กอดซึ่งจะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีกเยอะ

คุณพ่อคุณแม่บางคนกังวลว่าถ้ารีบเข้าไปโอ๋ลูกทุกครั้งที่ลูกร้อง จะทำให้เด็กเสียนิสัย แต่ผลงานวิจัยกลับชี้ว่า เด็กที่ได้รับการตอบสนองจากพ่อแม่อย่างรวดเร็วจะร้องไห้น้อยกว่า

การเข้าไปโอ๋ลูกน้อยอย่างรวดเร็วจะทำให้เด็กรู้ว่าคุณอยู่ใกล้ ๆ และทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย

สาเหตุที่เด็กร้องไห้

– หิว

– หนาวหรือร้อนเกินไป

– ปวดท้อง ท้องอืด มีอาการโคลิค

– ต้องการเปลี่ยนผ้าอ้อม

– เจ็บปวด

– เบื่อ

– ตื่นเต้นเกินไป

– ต้องการให้กอด

สาเหตุเหล่านี้มักแก้ไขได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว และเมื่อแก้ปัญหาแล้ว ลูกน้อยของคุณควรสงบลง แต่ถ้าลูกยังร้องไม่หยุดหรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ลองโทรปรึกษาคุณหมอ

โคลิค

ถ้าลูกของคุณอายุต่ำกว่า 3 เดือนและร้องไห้เยอะมาก อาจมีสาเหตุมาจากอาการโคลิคซึ่งไม่มีวิธีรักษา แต่มีวิธีบรรเทาที่คุณอาจลองทำได้ เช่น

– กอด

– ให้ลูกดูดจุกนม

– ร้องเพลงหรือเปิดเพลงเบา ๆ กล่อม

– นวดเบา ๆ

– อาบน้ำให้ลูก

– อุ้มลูก

– พาออกไปเดินเล่น

เด็กโตร้องไห้

หากลูกของคุณอายุมากกว่า 3 เดือน นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาร้องไห้

– หมอน ตุ๊กตาหรือของประจำตัวหายไป

– ต้องการเพื่อน

– กระแทกเข้ากับอะไรบางอย่าง

– ฟันกำลังขึ้น

– ความเครียด

– ความกลัว

การกอดจะช่วยทำให้เด็กสงบลงได้เป็นอย่างดีถ้าสาเหตุไม่ได้เกิดจากอาการเจ็บป่วย ถ้าลูกยังร้องต่อเนื่อง ดูไม่สบายตัว หรือดูเครียด แนะนำให้ลองปรึกษาคุณหมอค่ะ

วิธีรับมือถ้าลูกร้องไห้หนัก

แม้บางครั้งดูเหมือนว่าลูกจะไม่มีวันหยุดร้องไห้ (โดยเฉพาะเมื่อเขากำลังมีอาการโคลิค) แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเดี๋ยวเขาก็หยุด ถ้าคุณรู้สึกว่าปัญหานี้มันยากเกินจะรับไหว ขอเวลานอกให้ตัวเองสักครู่ หาเวลาไปจิบชาเงียบ ๆ สักพักก็ช่วยได้เยอะ แต่ถ้ารู้สึกว่าทนไม่ไหวจริง ๆ ลองปรึกษาคุณหมอดูค่ะ

เมื่อจู่ ๆ ลูกเป็น ไข้ผื่นกุหลาบ หรือ"ส่าไข้"จะ รับมืออย่างไร

   เคยได้ยินว่าลูกเพื่อนเป็นส่าไข้กันหลายคน แต่เราก็ไม่ได้สอบถามอะไร จู่ๆ เมื่อน้องโอม อายุได้ 7 เดือน กว่า พระเอกตัวน้อยของเราก็มีไข้สูงอยู่สามวัน กลัวว่าจะเป็นไข้เลือดออก จึงต้องวิ่งโร่พาลูกไปหาคุณหมอเพื่อรักษา ก็พบว่าไข้สูงถึง 39 องศาเซลเซียส คุณหมอสอบถามอาการแล้วก็ฟันธงว่าเป็น “ส่าไข้” ไม่ต้องกังวล ให้ดูแลรักษาดีๆ ตามอาการ รู้มาว่าเป็นโรคยอดฮิตของเด็กเล็กกันเลยทีเดียว

***ดช.ชวัลวิทย์ สุวรรณมณี มีไข้ตั้งแต่ วันพฤหัสบดีที่ 23 - วันเสาร์ ที่ 25 ต.ค.2557 มีไข้ 39 องศา
วันอาทิตย์ 26 ต.ค.2557 มีตุ่มขึ้น ที่หน้า คอ หลัง ขา และน่อง เป็นตุ่มสีแดง จุด จุด
ตอนแรกนึกว่าเป็น ไข้เลือดออก แต่วันอาทิตย์ ไข้ไม่มีแล้ว  **************




ค้นข้อมูลจาก google ขอบคุณข้อมูล จาก วิชาการ.คอม

โรคส่าไข้นี้มีสาเหตุ อาการและการรักษาอย่างไรฟังทางนี้ค่ะ


โรคส่าไข้
ส่าไข้ ถือเป็นไข้ออกผื่นชนิดหนึ่งที่พบในเด็กเล็กๆ วัย 6 เดือนถึง 3 ขวบ เมื่อสอบถามเพื่อนๆ ก็พบว่า ลูกของเพื่อนเป็นกันเกือบทุกคนเลยค่ะ แต่ไม่พบในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ น่าจะเพราะมีภูมิคุ้มกันดีกว่าเด็กเล็กๆ คุณหมอบอกว่า เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่มีอยู่ทั่วไปในอากาศ โรคนี้ติดต่อกันโดยการไอ จาม หรือหายใจรดกัน เมื่อเป็นแล้ว มักจะไม่เป็นซ้ำอีก สบายใจได้ค่ะ (โรคนี้ฝรั่งเรียกว่า “reseolar infantum” แปลว่า “ไข้ผื่นกุหลาบในทารก”) โรคนี้ไม่อันตรายมาก แต่ให้ระวังหากมีไข้สูงจัดเพราะอาจทำให้ชักได้ค่ะ

ตอนพบคุณหมอ คุณหมอไม่ได้ให้ยาอะไรมาทานเลยค่ะ บอกว่าเดี๋ยวจะหายเองภายใน 3-5 วัน แต่ไข้ลดจะมีผื่นขึ้น อย่าตกใจ แต่ผื่นจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ คุณหมอให้แต่ยาลดไข้ และบอกให้หมั่นเช็ดตัวลูก อย่าให้ไข้สูง

อาการ
เด็กที่เป็นส่าไข้ จู่ๆ จะมีอาการตัวร้อนจัด โดยไม่มีอาการเป็นหวัด ไอ อาเจียนหรือท้องเดินให้เห็น อาจมีอาการซึมเล็กน้อย เบื่ออาหาร หรืองอแง ไข้อาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียส และอาจเป็นไข้ (ตัวร้อน) อยู่ตลอดเวลาก็ได้ไข้จะเป็นอยู่นาน 1-5 วัน (โดยเฉลี่ยประมาณ 3 วัน) แล้วอยู่ดีๆ ไข้จะลดลงเป็นปกติ หลังจากไข้ลงเพียงไม่กี่ชั่วโมง จะปรากฏผื่นแดงเล็กๆ ขึ้นที่หน้า ลำคอ และลามไปทั้งตัว โดยอาการผื่นจะเป็นประมาณ 1-3 วันแล้วจะจางหายไปเองโดยไม่มีรอยดำหรือแผลเป็นใดๆ ค่ะ
ในช่วงที่มีไข้สูง ถ้าไปหาหมออาจตรวจแล้วไม่ทราบว่าเป็นอะไร จนกว่าจะรอให้ไข้ลดแล้วมีผื่นแดงขึ้นจึงจะบอกได้แน่ชัดว่าเป็นส่าไข้

อาการของเด็กแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เด็กบางคน เช่น ลูกของดิฉัน ไข้ลดในช่วงกลางวัน และช่วงกลางดึกและเช้ามืดไข้จะกลับมาสูง ขณะที่ลูกยังร่าเริง ไม่ซึม แต่เวลาจะนอนดูจะหงุดหงิด และงอแงช่วงกลางดึก เนื่องจากไข้ขึ้นจนน้องรู้สึกไม่สบายตัว และก่อนออกผื่นจะถ่ายเหลวหลายครั้ง พอออกผื่นขึ้นที่หน้าเยอะมาก ลายเป็นตุ๊กแกทีเดียว ก่อนจะลามไปทั่วตัว ขณะที่เด็กรายอื่น นอกจากมีไข้สูงแล้ว อาจจะมีน้ำมูกไหล เจ็บคอ รับประทานอาหารได้น้อยลง มีผื่นขึ้นที่หลังและลำตัวเล็กน้อย แต่ทั้งนี้หลักการสำคัญคือว่า เด็กต้องไม่ซึม ถ้าลูกยังเล่นได้ไม่ซึม คุณแม่สบายใจได้


คำแนะนำในการดูแลลูกเมื่อเป็นส่าไข้

1. ให้หมั่นคอยเช็ดตัวใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด และเช็ดย้อนรอยขุมขน จะช่วยระบายความร้อนในร่างกายได้ดี
2. ระวังอย่าให้ไข้สูงเพราะเมื่อไข้ขึ้นสูงเด็กอาจจะชักได้
3. ให้ลูกจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย
4. กินยาลดไข้ที่คุณหมอจัดให้ ถ้าไข้สูงมากจะมียาสำหรับไข้สูงโดยเฉพาะ
5. ถ้าลูกน้อยงอแงคุณแม่อาจจะอุ้มเดินและตบหลังเบาๆ เพื่อปลอบโยนลูกน้อย
6. ถ้าออกผื่นแล้ว ไม่ต้องทาคาลาไมด์นะคะ คุณหมอบอกว่าผื่นไม่คัน และผื่นจะหายไปได้เอง

ข้อควรรู้

หากลูกมีไข้สูงจนเกิดอาการชัก คุณพ่อคุณแม่ควรจับนอนตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก ไม่ต้องหาช้อนหรืออะไรมางัดปากแบบผู้ใหญ่ เพราะอาจจะทำให้ฟันหักได้ รีบเช็ดตัวลดไข้แล้วพาไปพบคุณหมอด่วนที่สุดค่ะ
ความแตกต่างของโรคส่าไข้กับโรคไข้เลือดออกคือ ส่าไข้ เด็กจะมีอาการไข้สูงเพียงอย่างเดียว ขณะที่ไข้เลือดออกเด็กอาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย
หากลูกป่วยเป็นโรคส่าไข้ สิ่งสำคัญคือ ใจสู้ ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอดทนตื่นกลางดึกมาเช็ดตัวบ่อยๆ อดทนกับอาการงอแงของลูก และต้องคอยดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ถ้าลูกป่วยล่ะก็ขอให้อย่าวิตกกังวลเกินไป เดี๋ยวป่วยไปด้วยจะลำบาก ให้คิดไว้นะคะว่า ป่วยได้…ก็หายได้
เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ

น้องโอมไปงานแต่ง ลูกสาวพี่วิมมาลา แก้วพรหม 29/09/57

น้องโอมไปงานแต่ง ลูกสาวพี่วิมมาลา แก้วพรหม
ไปเป็นเกียรติ และร่วมรับประทานอาหารเนื่องในงานพิธีมงคลสมรส
นางสาววฐิตารีย์ เจตนา VS นายตุลย์ พิทตระพันธ์
ณ ห้องสมิหลา แกรนด์บอลรูม ชั้น 2 โรงแรม พาวิลเลี่ยน อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
วันจันทร์ ที่ 29 กันยายน 2557 ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 11
เวลา 18.00 น. โต๊ะจีน









ลูกครบ 6 เดือน พาลูกไป ฉีดวัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอและตับอักเสบ ครั้งที่ 3 จ้า!!!

ลูกครบ 6 เดือน พาลูกไป ฉีดวัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอและตับอักเสบ ครั้งที่ 3 จ้า!!! 18 กันยายน 2557
อายุ 6 เดือน
น้ำหนัก 7.8 กิโล
ความยาว 69 ซ.ม
รอบศรีษะ 43.5 ซ.ม.
น้องโอห์ม มีอายุ ได้ :198 วัน, 08 ชั่วโมง, 50 นาที, 37 วินาที. 






การพาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนนั้น อันที่จริงแล้วไม่ใช่เพียงการพาลูกไปฉีดวัคซีนเท่านั้น แต่เป็นการพาลูกไปตรวจเช็คสุขภาพ การเจริญเติบโต (น้ำหนัก,ส่วนสูง,เส้นรอบศรีษะ) และตรวจพัฒนาการด้วย ถ้าคุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยไปพบคุณหมอ แล้วคุณหมอไม่ทำอะไรอื่นเลยนอกจากการฉีดวัคซีน คุณพ่อคุณแม่ควรท้วงติงคุณหมอให้ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ครบ ดังที่ระบุเป็นข้อๆ ข้างล่างนี้
ตรวจร่างกายโดยทั่วไป รวมถึงการวัดไข้ด้วย เพราะถ้าเด็กมีไข้ ก็ยังไม่ควรฉีดวัคซีน
ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดเส้นรอบศรีษะ แล้วจดบันทึกไว้ในตารางบันทึกในสมุดประจำตัวของเด็ก
นำเอาผลที่ได้ในข้อสอง ไปพล๊อต ในกราฟ ของน้ำหนักและส่วนสูง(ในสมุดประจำตัวของเด็ก) เพื่อดูว่าน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่
พูดคุยกับคุณหมอถึงพัฒนาการของลูกในช่วงวัยนั้นๆว่าสมวัยหรือไม่
พูดคุยซักถามคุณหมอเพื่อเลือกชนิดของวัคซีนที่จะฉีด(เพราะปัจจุบันมี วัคซีนทั้งแบบในโปรแกรมธรรมดาๆ และวัคซีนพิเศษนอกโปรแกรมซึ่งราคาจะแพงกว่า วัคซีนธรรมดามาก)
ตัดสินใจเลือกวัคซีนที่จะฉีดตามความเหมาะสมและความพร้อม(ด้านการเงิน) เมื่อตัดสินใจได้แล้ว คุณหมอจะต้องลงบันทึกการฉีดลงในสมุดประจำตัวของเด็ก ในหน้าที่ใช้ในการบันทึกการฉีด (ต้องเน้นให้บันทึกทุกครั้ง และบันทึกให้ถูกหน้า) และให้ลงรายการนัดฉีดครั้งถัดไป ในหน้าสำหรับนัดให้ถูกต้องและถูกที่ทุกครั้ง
เข้ารับการฉีดวัคซีน (ขั้นตอนนี้ต้องระวัง ถ้าสถานพยาบาลที่ให้เจ้าหน้าที่พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่อื่นๆ ฉีด โดยหมอไม่ได้เป็นคนฉีดเอง ต้องระวังความผิดพลาดที่เกิดจากการเตรียมยาผิด ฉีดผิด ตำแหน่งและความลึกของเข็ม (ยาบางตัวฉีดเข้าใต้ผิวหนังบางตัวฉีดเข้ากล้าม เนื้อ) หรือแม้กระทั่งยาบางตัว จะต้องรอให้แอลกอฮอล์ที่เช็ดผิวหนังแห้งเสียก่อน จึงค่อยจิ้มเข็มลงฉีด เพราะเป็นวัคซีนเชื้อเป็น ขั้นตอนนี้ถ้าหมอเป็นคนฉีดให้เด็กเอง หมอจะช่วยในการตรวจความถูกต้องซ้ำ (Double check) ก่อนการลงมือฉีดด้วย
สอบถามถึงอาการที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนในวันนั้นๆ และขอยาที่อาจจะต้องใช้ไปเก็บไว้เผื่อมีอาการตอนดึกๆ เช่นยาแก้ปวดลดไข้
คำแนะนำในการเลือกฉีดวัคซีน (ว่าจะเอาโปรแกรมไหนดี) หลักการในการเลือก

วัคซีนทุกชนิด (ที่ไม่ใช่ยาเถื่อน หรือยาที่ไม่ผ่านองค์การอาหารและยา) ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น ตามหลักการที่ว่า การไม่เป็นโรคดีกว่าการเป็นแล้วจึงค่อยมารักษา (Prevention is better than cure)
การจะเลือกฉีดวัคซีนแบบเฉพาะในโปรแกรมหรือเอาวัคซีนพิเศษด้วย ปัจจัยสำคัญคือความพร้อมทางด้านการเงิน ถ้าไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน แนะนำให้ฉีดวัคซีนทุกตัว และแบบที่ดีที่สุดไปเลย (แบบรวมอยู่ในเข็มเดียวกัน จะได้ไม่ต้องเจ็บหลายที)
วัคซีนเฉพาะในโปรแกรมของกระทรวง (แบบพื้นฐานขั้นต่ำ)

แรกเกิด–>  วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG), วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี เข็ม 1 (ฉีดมาตั้งแต่ที่ รพ.ที่เด็กคลอด)
อายุ 2 เดือน–>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 1, วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี เข็ม 2
อายุ 4 เดือน–>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 2
อายุ 6 เดือน–>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 3, วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี เข็ม 3
อายุ 9 เดือน–> วัคซีน หัด หัดเยอรมัน คางทูม ครั้งที่ 1
อายุ 1 ปี–>วัคซีน ไข้สมองอักเสบ (แบบดั้งเดิม) ครั้งที่ 1 และฉีดเข็มที่ 2 หลังจากเข็มแรก 2-4 สัปดาห์
อายุ 1 ปี 6 เดือน–>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 4
อายุ 2 ปี–> ไข้สมองอักเสบ (แบบดั้งเดิม) ครั้งที่ 3
อายุ 4 ปี–>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 5, วัคซีน ป้องกันวัณโรค (BCG) (ถ้ายังไม่พบว่ามีรอยแผลเป็น ณ ตำแหน่งที่เคยฉีดตอนแรกเกิด)
อายุ 5 ปี–>วัคซีน หัด หัดเยอรมัน คางทูม เข็ม 2
หลังจากนี้
ฉีดวัคซีน คอตีบ บาดทะยัก ทุก 10 ปี
ฉีดกระตุ้น วัคซีนไข้สมองอักเสบทุกๆ 5 ปี
วัคซีนแบบพิเศษ  (มีทั้งวัคซีนแบบพื้นฐานและวัคซีนนอกโปรแกรม ทั้งหมด)

แรกเกิด–>วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) , วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี เข็ม 1 (ฉีดมาตั้งแต่ที่ รพ.ที่เด็กคลอด)
อายุ 2 เดือน–>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 1, วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ครั้งที่ 2, วัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (ฮิบ) ครั้งที่ 1 ทั้งหมดรวมอยู่ในเข็มเดียวกัน เรียกว่า Infanrix Hexa, วัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงชนิดกิน โรต้าไวรัส (Rotarix) ครั้งที่ 1, วัคซีนป้องกัน โรค IPD ครั้งที่ 1
อายุ 4 เดือน–>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 2, วัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (ฮิบ) ครั้งที่ 2 ทั้งหมดรวมอยู่ในเข็มเดียวกัน เรียกว่า Infanrix IPV Hib, วัคซีนป้องกันโรคท้องร่วง ชนิดกิน โรต้าไวรัส (Rotarix) ครั้งที่ 2, วัคซีนป้องกัน โรค IPD ครั้งที่ 2
อายุ 6 เดือน–>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 3, วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ครั้งที่ 3, วัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (ฮิบ) ครั้งที่ 3 ทั้งหมดรวมอยู่ในเข็มเดียวกัน เรียกว่า Infanrix Hexa , วัคซีนป้องกัน โรค IPD ครั้งที่ 3
อายุ 9 เดือน–> วัคซีน หัด หัดเยอรมัน คางทูม ครั้งที่ 1
อายุ 1 ปี –>วัคซีน ไข้สมองอักเสบ (แบบใหม่ คือ CD JE VACC) ครั้งที่ 1 และฉีดเข็มที่ 2 หลังจากเข็มแรก 3-12 เดือน, วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส ครั้งที่ 1 และเข็ม 2 ห่างจากเข็มแรก มากกว่า 3 เดือน
อายุ 15 เดือน –> วัคซีนป้องกัน IPD เข็มที่ 4
อายุ 1 ปี 6 เดือน –>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 4
อายุ 2 ปี –>วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ ฉีด 2 เข็มห่างกัน 6 เดือน
อายุ 4 ปี –>วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 5, วัคซีน ป้องกันวัณโรค (BCG) (ถ้ายังไม่พบว่ามีรอยแผลเป็น ณ ตำแหน่งที่เคยฉีดตอนแรกเกิด), วัคซีนไทฟอยด์ (มีทั้งแบบกินและแบบฉีด)
อายุ 5 ปี–>วัคซีน หัด หัดเยอรมัน คางทูม เข็ม 2
นอกจากนี้
วัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ ฉีดปีละหนึ่งครั้ง โดยฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป
ฉีดวัคซีน คอตีบ บาดทะยัก ทุก 10 ปี
ฉีดกระตุ้น วัคซีนไข้สมองอักเสบทุกๆ 5 ปี
ทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมานี้เป็นเพียง ตัวอย่างแบบต่ำที่สุดและแบบสูงที่สุด หรือมากที่สุดเท่านั้น ในกรณีที่ คุณพ่อคุณแม่ต้องการชุดการฉีดที่อยู่ระหว่างกลางๆ คืออาจจะอยากได้วัคซีนพิเศษเพียงบางตัวไม่ใช่ทั้งหมด สามารถเรียนปรึกษาคุณหมอที่ท่านนำบุตรหลานไปฉีดวัคซีนด้วย ในรายละเอียดต่างๆอีกทีได้ครับ

เก็บตกน้องโอห์มไปเยี่ยมคุณทวด ครัชชชชช..

เก็บตกน้องโอห์มไปเยี่ยมคุณทวด ครัชชชชช..

ช่วงนั้น น้องโอห์มอายุ ได้ แค่ เดือน เดียว  น้องโอห์ม กลับ ตรงกับ ช่วงเทศกาล สงกรานต์ พอดี

คุณทวดของนองโอห์ม  อีก 3 ปี ท่านก็ อายุ ครบ 100 ปี แล้ว

 ยังแข็งแรง  สาย ตา มองเห็น ชัดเจน เพราะ เพิ่ง ลอกตา ตอน อายุ 88 ปี  แต่ การได้ ยิน มีปัญหา นิดหน่อย ..

คุณทวด มี ลูกแค่ 2 คน  ชาย 1 หญิง 1  คน พี่  เป็นผู้หญิง ชื่อ คลี่  คน น้อง เป็น ผู้ชาย ชื่อ เพิ่ม 

ยายคลี่ เป็น แม่ ของ แม่น้องโอห์ม  ส่วน ตาเพิ่ม นั้น เสีย ชีวิต ก่อน น้อง โอห์ม คลอด

คุณทวด เป็นคนใจดี อารมณ์ดีเสมอ  ชอบทำบุญ ไม่ว่า ใครให้ ตังค์ มา เท่าไหร่ แก จะเอาไปทำบุญ หมด

มีอะไร ก็ แบ่ง ให้คนโน้นคนนี้  ...

คิด ว่า การ ที่ คุณทวด สุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว ก็น่าจะมา จาก การ ที่ ท่าน เป็น อารมณ์ดีอยู่เสมอ และ ชอบทำบุญ ท่านคิดแต่จะให้   ไม่ยึดติด..


สาธุ ขอให้ คุณทวด มี สุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานไปอีกนาน ๆ

น้องโอห์ม อายุครบ 3 เดือนแล้วคร๊าบ มารายงานตัวพร้อมประสบการณ์ ครัชช...


ณ. หน้าวัดแหลมทราย ... น้องโอห์ม มีอายุ ได้ :91 วัน, 21 ชั่วโมง, 30 นาที, 31 วินาที.

          เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกดังเค้าว่า  น้องโอห์มคลอดมาครบ 3 เดือนแล้วเหรอนี่ แต่กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้ก็หนักหนาเอาการอยู่เหมือนกัน กว่า จะลง ตัว  เพราะ เป็น  คุณ พ่อ คุณ แม่ มือ ใหม่  ทั้ง คู่ และ เลี้ยง กันเอง ตามประสา ถูก ผิด ก็ หาข้อมูล ผู้มีประสบการณ์ รอบข้างและ  จาก อาจารย์  Goo
         ช่วง 2- 3 อาทิตย์  แรก  คุณพ่อ และ คุณแม่   ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน  เพราะลูกหลับไม่นานตื่นแทบทุกชั่วโมง บางทีครึ่งชั่วโมงยังมี คุณแม่ แผลผ่าตัดก็ เจ็บต้องลุกๆ นั่งๆ อุ้มลูกตลอด วันๆ นอนได้ไม่ถึง 4 ชั่วโมง  แบบไม่ติดต่อกันอีกด้วยนะ เลี้ยง  2-3 วันแรก  คุณแม่ นั่งร้องไห้ฮือๆ เหมือนโลกจะถล่มทลาย นึกในใจ โรคซึมเศร้ามาเยือนแน่ๆ  เพิ่งรู้ว่า การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งนี่ไม่ได้ง่ายเลย  ไม่นึกว่าการมีลูกที่หลับไม่นานไม่จะเหนื่อยได้ถึงปานนี้ เหนื่อยจนแบบเดินไปไหนเหมือนตัวลอยๆ แต่ยังโชคดีอยู่หน่อยที่เค้าไม่ค่อยร้องและไม่เป็นโคลิค 
        3 เดือน มานี้  ลูก ไม่เจ็บ ไม่ป่วย เลย ไปหาหมอ ก็ เฉพาะ เวลา มีหมอ นัด หรือ นัด หมอ  เมื่อ ตอน ครบ 2 เดือน ก็ไป ฉีด วัดซีน 1 ครั้ง หมอบอก เป็น วัดซีน รวม  เข็ม ละ ตั้ง  1700 บาท  เหลือ ยัง ต้อง ฉีด อีก 2 เข็ม  ครบ 4 เดือน 1 ครั้ง  ครบ 6 เดือน อีก 1 ครั้ง
       ตอนนี้ คุณแม่ เริ่ม ไป ทำงาน ได้ 3 วัน แล้ว   จ้าง คุณป้า ใจดี เฟลต ตรงข้ามเลี้ยงให้ คุณแม่ต้อง ไปส่ง ตอน  8.00 น.  เช้า  ตอนเที่่ยง วิ่งมาให้นม    ตอนเย็น มารับ ประมาณ 5 โมง เย็น ..


พัฒนาการตอนนี้

คอก็ใกล้แข็งแล้ว เวลาอุ้มไม่ ยังต้องพยุง
ชอบอาบน้ำแล้ว ไม่ร้องแว๊กๆ
อึน้อยลง วันละหนเอง อึเหนียวขึ้น
จำหน้าแม่ได้
ชอบอือ ออ กะคน กะของ
นอนยาวขึ้น ได้ถึง 8 ชม.
กินนมน้อยมื้อลง แต่กินเยอะขึ้น
ชอบฟังเพลง แล้วอือ ออ ตาม
เล่นของเล่นบางชนิดได้ กุ้งกิ้งๆ
น้ำลายเยอะ ต้องใช้ผ้ากันน้ำลาย


ฟังเพลงกล่อมเด็ก ลูกohm เพลงกล่อมเด็ก Music for Babies : BABY SLEEP MUSIC เพลงกล่อมลูก



เพลงกล่อมเด็ก ลูกohm เพลงกล่อมเด็ก Music for Babies : BABY SLEEP MUSIC เพลงกล่อมลูก

ผมเห็นว่าเพลงเพราะและฟังสบาย เปิดให้ลูกฟังแล้วเค้านอนหลับดีเลย ขอบคุณเจ้าของเพลงเพราะๆครับ

เปิดใหลูกฟังก่อนนอนทุกครั้ง เวลาที่ได้ยินเพลงนี้ เค้าก็จะรู้ว่าได้เวลาที่จะนอนแล้ว

 ได้ผลเปิดให้ลูกฟังแล้วจากที่งอแงไม่ยอมนอนกลับกลายเป็นหลับสนิทเลย. เยี่ยม !!
เปิดกล่อมตัวเองก่อนนอน หลับ สบายมาก



มีแขกมาหา ๑๘ เมษายน ๒๕๕๗


มีแขกมาหา

๑๘ เมษายน ๒๕๕๗

เมื่อคืนนี้เพื่อนพ่อกับแม่หลายคนมาเยี่ยมลูก มาช่วงหัวค่ำ มาไม่พร้อมกัน บางคนมาตั้งแต่ก่อนลูกจะนอน เขาได้เล่นกับลูก อีกกลุ่มใหญ่มาตอนลูกหลับไปแล้ว
แต่ลูกก็ตื่นขึ้นมาให้เขาได้เห็นและได้เล่นกับเขา

แม่อุ้มลูก และคุยกับลูกไปด้วยพ่อนั่งอยู่อีกฟากของห้อง พ่อสังเกตดูลูก เห็นลูกไล่มองน้า ๆ อา ๆ ไปทีละคน

รอบหลังสุุด มี ลุงน้อง ป้าหญิง พี่กี มีของมาฝาก น้องด้วย .ป้าหญิง ช่วยแนะนำแม่ของลูก วิธี นวดหลัง ลูก ตอนอาบน้ำ

ทุกคนเล่นกับลูกอย่างสนุก และลูกก็คงสนุกและตื่นตา ที่มีคนมาเล่นกับลูกเยอะแยะ

ในสายตาพ่อ ดูลูกจะตื่นเต้นกับทุกสิ่? จดจ้องกับสิ่งที่เป็นสีสันอย่างน่าสนุก ใครใส่เสื้อสีฉูดฉาด ลูกจะจ้องเอาอย่างจริงจัง

ลูกร่าเริง แจ่มใส อารมณ์ดีอย่างน่าปลิ้มใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ ลูกทำให้ใจพ่อเอิบอิ่ม เหมือนยาวิเศษที่มาชุบชูใจ


๑๑.๒๔ น.,  เฟลต หน้าวัด .แหลมทราย




เปลนอนน้องโอห์ม..แบบสปริง..โยกขึ้น-ลงได้. นอนหลับสบาย ครับ..


เปลนอนน้องโอห์ม..แบบสปริง..โยกขึ้น-ลงได้..แดงอมน้ำตาล.. สัมมนาคุณ จาก น้องชายของแม่เอง จ๊ะ

ภาพจากอินเตอร์เน็ต


เปลนอนน้องโอห์มๆๆ...แบบสปริง...โยกขึ้น-ลงได้...ใช้ดีสุดสุด...ค่ะ  โยก เป็บเดียว หลับเลย   เหมาะสำหรับลูกน้อย...จ้า 

*^_^* คุณสมบัติของเปลนอนน้องโอห์มๆๆ *^_^*

1.  เปลนอนน้องโอห์มๆๆ...แบบสปริง 1 เส้น ,...นะค่ะ

2.  ผ้าเปล...เป็นผ้าตาข่ายนุ่มๆๆ  เนื้อผ้า...ทนทาน...ใช้งานได้นาน...ค่ะ

3.  สามารถถอดซักได้สะดวก...จ้า

4.  สามารถติดมุ้ง...ป้องกันยุง...เพิ่มได้ค่ะ

5.  ตัวเปล...สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้ตามต้องการ...นะค่ะ

6.  สามารถพับเก็บได้สะดวก...จ้า

7.  ฐานตั้งเปล...มีล้อเลื่อน...เคลื่อนย้ายได้สะดวก...ค่ะ

8.  ตัวเปลทำจากเหล็กมีความแข็งแรง...ทนทาน...รองรับน้ำหนักได้ดี...นะค่ะ

9.  มีความปลอดภัยในการใช้งาน...สูงจ้า

10.  ที่สำคัญลูกน้อย...นอนสนิท...หลับสบาย...ค่ะ




คำเตือน

เปลสปริงจะทำให้เด็กนอนหลับสบายก็จริงอยู่นะครับ แต่ถ้ามีการเปลี่ยนที่นอน เช่นเดินทางไปทีอื่น ก็ต้องนำเปลติดตัวไปด้วยนะครับ เพราะเด็กจะไม่ยอมนอนเลย ต้องให้อุ้มแล้วเขย่าเหมือนเปลถึงจะหลับ แต่ถ้าไม่ต้องเดินทาง หรือสามารถนำติดตัวไปตลอดก็ไม่มีปัญหาครับ












เขียนคิ้วด้วยดอกอัญชัน ให้ น้องโอห์ม

เขียนคิ้วด้วยดอกอัญชัน ให้ น้องโอห์ม

 น้องโอห์มเกิดมาไม่ค่อยจะมีผมและคิ้วเท่าไหร่ แต่ขนบางๆ รอบๆ ตัวเยอะเหมือนกัน และผมของ น้องโอห์มก็เป็นสีน้ำตาลด้วย  มีคนแนะนำแม่ให้ไปเอาก้านพลูมาเขียนคิ้วได้แล้ว ตอนแรกแม่ก็ไม่รู้จักหรอกน่ะว่าก้านพลูหน้าตาเป็นยังไง  แม่ก็เลยให้ พ่อน้องโอห์ม ออกไปหาซื้อมา ได้มาแล้วเยอะเลยหลายใบมากๆๆ เค้าไปซื้อใบพลูมาจากตลาด


ตัวอย่างใบพลูที่แม่หาเจอในเน็ต


พอแม่เห็นก็ งง นิดหน่อยว่า ก้านพลูมันจะเล็กๆแหลมๆ แล้วจะเอามาเขียนคิ้วน้องได้ยังไง น้องจะเจ็บไม๊ แล้ว ยางจะกัดผิวของน้องไม๊
 แม่ก็เลยตัดสินใจไม่กล้าใช้ มาลองใช้สูตรอื่นดูก็แล้วกัน สูตร ดอกอัญชัน ไงจ๊ะ ไปค้นหาในเน็ตดูแล้วเค้าว่ากันว่าดอกอัญชันนั้นมีหลายสีต้องใช้
สีม่วงออกน้ำเงินน่ะถึงจะได้ผล ฮืมม แล้วแม่จะไปหาที่ไหนดีน๊าดอกอัญชัน ฮิฮิ ยกหน้าที่ให้พ่อน้องโอห์มไปหาก็แล้วกันน่ะ

แล้ว พ่อน้องโอห์มก็ไปแอบเด็ดมาจากรั้วบ้านคนอื่น ฮ่าๆๆ เอามาให้แม่ลองดูก่อนว่าใช้ได้ไม๊ แล้วแม่ก็ลองเอามาขยี้ๆ แล้วเอา cotton pad มาจิ้มๆสีที่เลอะออกมาแล้วเขียนที่คิ้ว น้องโอห์ม แล้วแม่ก็เอาสีที่เหลือบนนิ้วของแม่มาทาที่หัว น้องโอห์มด้วย เผื่อผมจะขึ้นเยอะกว่านี้ ..



















ก้านพลู คือ ก้านของต้นพลู (ที่ใบพลูกินได้อ่ะค่ะ)
เด็ดออกมาจะมีน้ำเลี้ยงของต้นไม้ เอามาวาดคิ้ว
ให้ทำแค่ครั้งเดียวพอค่ะ ทาแล้วไม่จำเป็นต้องล้างออก

อัญชัน คือ เอาดอกอัญชันมาแช่น้ำอุ่นล้าง
แล้วใส่ในถุงพลาสติกขยี้บีบน้ำออกมา ไม่จำเป็นต้องผสมน้ำอีก เพราะเดียวจะใสไป
ทา 1-2 ชั่วโมงแล้วล้างออก แล้วแต่แม่สะดวกทาตอนไหน บ่อยเท่าไรก็ได้
(แต่เด็กบางคนอาจจะแพ้ ผื่นขึ้นได้ ต้องลองทาน้อยๆ ดูก่อน)

น้ำนมแม่ ทาได้ทั้งหัวและคิ้วค่ะ
 
 
Support : | |
Copyright © 2014. บ้าน น้องโอห์ม - All Rights Reserved
Template Created by Published by
Proudly powered by Blogger